ฉนวนใยหิน (Rockwool) VS ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass) ต่างกันอย่างไร?

ฉนวนใยหิน หรือ Rockwool และ ฉนวนใยแก้ว หรือ Fiberglass เป็นฉนวนกันความร้อนที่มีลักษณะเป็นเส้นใยทั้งคู่ แต่ผลิตจากวัสดุต่างกันโดยฉนวนใยหิน (Rockwool) ทำจากหินปูนและบะซอลต์ หรือ หินภูเขาไฟ ส่วน ฉนวนใยแก้ว เป็นวัตถุดิบจากแก้วที่หลอมละลายและแข็งตัวของซิลิกา มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ไม่ติดไฟ ป้องกันไฟลามได้ดี ป้องกันน้ำและไอระเหยที่ซึมผ่าน อีกทั้งยังช่วยเป็น ฉนวนกันเสียงและลดเสียงรบกวนได้อีก สามารถใช้ประยุกต์ใช้ในงานด้านอุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมงานท่อความร้อน

มีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร?

1. ความหนาแน่นของ ฉนวนใยหิน Rockwool และ ฉนวนใยแก้ว 

ฉนวนใยแก้วมีประสิทธิภาพของความหนาแน่นที่ต่ำต่างจากฉนวนใยหิน  rockwool โดยที่ฉนวนใยแก้วมีความหนาแน่นเพียง 16 กก./ลบ.ม. จนถึง 32 กก/ลบ.ม แต่ถ้าเทียบกับ ฉนวนใยหิน Rockwool  ที่ต่ำกว่าฉนวนใยหิน rockwool ที่มีความหนาแน่นเริ่ม 40 กก./ลบ.ม.ไปจนถึง  150 กก./ลบ.ม. ดังนั้นฉนวนใยหินจึงมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนได้ดีกว่า ไม่ติดไฟ และติดตั้งง่าย และเป็น ฉนวนกันเสียง หรือ rockwool กันเสียงที่มีประสิทธิภาพที่ดีมาก

2. การกันเสียง ของ ฉนวนใยหิน rockwool กันเสียง เมื่อเทียบกับ ฉนวนใยแก้ว

ฉนวนกันความร้อนไม่เพียงแต่ติดตั้งบนเพดานเท่านั้น ยังสามารถติดตั้งที่ผนังได้อีก และเมื่อนำวัสดุกันความร้อนทั้ง ฉนวนใยแก้วและฉนวนใยหินมาติดตั้งกับระบบผนังเบาเพื่อทดสอบเรื่องการกันเสียง ปรากฏว่าฉนวนใยแก้วสามารถกันเสียงได้ดีตามความหนาแน่นที่สูงขึ้น แต่เนื่องจากใยแก้วความหนาแน่นทำได้จำกัด ทำให้ ฉนวนใยหิน rockwool สามารถทำให้ rockwool กันเสียงได้ดีกว่าในความหนาแน่นที่มากกว่าที่ได้เปรียบฉนวนใยแก้ว 

3. การใช้งานของฉนวนใยหิน rockwool และฉนวนใยแก้ว

ส่วนมากจะต้องใช้อยู่ในโซนความร้อนของโรงงาน เช่น ฉนวน boiler ฉนวนหุ้มท่อไอน้ำ ฉนวนเตาเผาความร้อนสูง ฉนวนเตาอบ การจะเลือกใช้ฉนวน เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และป้องกันพนักงานจากการสัมผัสกับความร้อน การเลือกใช้ฉนวนควรคำนึงถึงอุณหภูมิที่จะใช้งาน โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมของฉนวนใยแก้ว ที่เหมาะสมและอายุการใช้งานยาวนานจะอยู่ในช่วงอุณหภูมิต่ำถึงปานกลางหรือประมาณ 0-150 องศาเซลเซียส เช่น โรงงานกระดาษ โรงงานน้ำตาล โรงงานแปรรูปอาหาร ในทางกลับกัน อุณหภูมิที่เหมาะสมของ ฉนวนใยหิน rockwool จะอยู่ในช่วงอุณหภูมิสูงหรือประมาณ 150-650  องศาเซลเซียส จะเหมาะกับการใช้งานโรงงานเฉพาะทางเช่น โรงกลั่นน้ำมันและแก๊ซ โรงงานไฟฟ้า โรงงานผลิตเคมีภัณฑ์ เตาเผาความร้อนสูง